สังคมและวัฒนธรรม ชาวเยอรมัน
การสื่อสารภายในประเทศ
โทรศัพท์
สำหรับรหัสโทรศัพท์เมื่อโทรเข้าประเทศเยอรมัน
จะใช้ +49
แล้วตามด้วย 0 จากนั้นจึงกดเบอร์โทรศัพท์
และหากต้องการโทรจากเยอรมันไปประเทศอื่น ๆ ต้องกด 00 ก่อนแล้วตามด้วยรหัสประเทศนั้น
ๆ
โทรศัพท์สาธารณะ
จะไม่พบในเมืองเล็ก ๆ ซึ่งอาจจะใช้ได้ทั้งการหยอดเหรียญ และบัตรโทรศัพท์
โดยสามารถหาซื้อบัตรโทรศัพท์ได้ตามไปรษณีย์, ธนาคาร และตามส่วนที่บริการนักท่องเที่ยว
สำหรับมารยาทในการโทรศัพท์ในเยอรมนี
ผู้ที่โทรจะต้องเอ่ยชื่อของตนเองให้เรียบร้อยก่อนที่จะเริ่มพูดธุระ
และไม่ควรโทรเข้าบ้านในเวลาหลังจาก 22.00 น. หรือโทรเข้าออฟฟิศในเวลาหลังจาก 17.00
น. (จันทร์ถึงพฤหัส) และหลังจาก 16.00 น.
(ศุกร์)
ไปรษณีย์
ไปรษณีย์ในเยอรมนีดำเนินการโดยบริษัท
Deutsche
Post ซึ่งเปิดบริการในเวลา 9.00-18.00 วันจันทร์ถึงวันศุกร์
และในเมืองใหญ่ ๆ จะมีการเปิดให้บริการสำหรับวันเสาร์ครึ่งวันอีกด้วย ตู้ไปรษณีย์ของที่นี่จะเป็นสีเหลือง
และมีระบุเวลาในการเก็บจดหมายที่ชัดเจนบนตู้ไปรษณีย์
สำหรับราคาส่งพัสดุภายในประเทศ
หากน้ำหนักไม่เกิน 20
กรัม จะมีราคาค่าส่งที่ 55 เซนต์
สำหรับจดหมายหรือโพสการ์ดที่ต้องการส่งถึงต่างประเทศราคาจะอยู่ที่ 75 เซนต์
รหัสไปรษณีย์ในเยอรมนีจะมีทั้งหมด
5
ตัว โดยสามารถค้นหารหัสไปรษณีย์และข้อมูลอื่น ๆได้จากเวบไซต์ของ Deutsche
Post (http://www.deutschepost.de)
อินเตอร์เน็ต
Wi-Fi
หรือชาวเยอรมันจะเรียกว่า W-Lan ยังมีการจัดระบบให้บริการทั่วถึงในเมืองใหญ่
ๆ โดยเฉพาะในร้านอาหาร, สนามบิน และโรงแรม
อย่างไรก็ดีเยอรมนีต้องการให้มีการกระจายระบบ Wi-Fi ให้มากกว่านี้
และทั่วถึงในแถบเมืองเล็ก ๆ อีกด้วยสำหรับผู้ให้บริการอินเตอร์ในประเทศเยอรมัน
รายใหญ่คือ Deutsche Telekom’s T-Online นอกจากนี้ยังมีผู้ให้บริการตามแต่ละรัฐอีก
อาทิเช่น gmx.net, snafu.de, หรือ Web.de (DSL)

มารยาททางสังคมของชาวเยอรมัน
การจับมือ
การจับมือเป็นวัฒนธณรมที่สำคัญของชาวเยอรมัน
โดยเฉพาะการพบกันครั้งแรก หรือการพบปะการประชุม
การจูบ
สำหรับความสัมพันธ์ในรูปแบบเพื่อนจะเป็นการจูบเบา
ๆ ที่แก้มทั้ง 2
ข้างในขณะที่เจอกัน
‘Sie’
และ ‘du’
ภาษาเยอรมันจะมีทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการ
‘Sie’
และในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ ‘du’ ตัวอย่างของความแตกต่างกันอาทิเช่น
การแนะนำตัวเอง
หากเป็นในรูปแบบ ‘Sie’
หากต้องการแนะนำตัวเอง อาจจะแนะนำแบบชื่อ+นาทสกุล
หรือเฉพาะนามสกุลเท่านั้น แต่หากเราแนะนำเฉพาะชื่อแรกของเราจะถือว่าอยู่ในรูปแบบ ‘du’
ซึ่งและแล้วแต่ความเหมาะสมของสถานการณ์
คำนำหน้าชื่อ
นอกจาก
Herr
(Mr.) และ Frau (Ms.) แล้ว
คำนำหน้าชื่อที่แสดงถึงการศึกษาและฐานะยังเป็นสิ่งสำคัญในวัฒนธรรมของชาวเยอรมัน
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรลืมอย่างยิ่งเมื่อเราต้องแนะนำคนอื่น ๆ
สำหรับคำนำหน้าเหล่านี้จะต่อท้ายคำว่า Herr และFrau ยกตัวอย่างเช่น Herr Dr.Keller หรือ Frau
Prof. von Henkel
ความตรงต่อเวลา
ชาวเยอรมันมีความตรงต่อเวลาเป็นอย่างมาก
และเป็นมารยาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการประชุมทางธุรกิจ
และการนัดหมายที่สำคัญ ควรจะไปก่อนเวลาสักเล็กน้อย หากเราไปสายจะเป็นการสร้างความไม่ประทับใจต่อคนอื่น
ๆ โดยเฉพาะเมื่อทุก ๆคนมาตรงต่อเวลา
การได้รับคำเชิญ
เมื่อเราได้รับการเชื้อเชิญให้ไปทานข้าวหรือเยี่ยมบ้านของชาวเยอรมัน เราควรนำของเล็ก
ๆ น้อย ๆ เพื่อมอบให้กับเจ้าของบ้าน
และต้องมั่นใจด้วยว่าของเหล่านั้นจะมีจำนวนเป็นเลขที่ เพราะชาวเยอรมันเชื่อว่าของที่มีจำนวนเป็นเลขคู่จะนำโชคไม่ดีเข้าสู่บ้าน
การแยกขยะ
การแยกขยะในบ้านของตนเอง
หรือแม้กระทั่งถังขยะของสาธารณะ เป็นเรื่องปกติของชาวเยอรมัน
เราอาจพบถังขยะสำหรับใส่แก้ว, ใส่กระดาษ และใส่ภาชนะ แยกกันตามทางสาธารณะ
ร้านอาหารในเยอรมนี
เมื่อเข้าไปในร้านอาหาร
เราไม่จำเป็นต้องคอยให้บริกรมาหาที่นั่งให้ แต่เราสามารถหาที่นั่งได้เอง
หรืออาจมีการถามบริกรว่าตรงนี้ว่างหรือไม่ การที่เราแชร์โต๊ะนั่งกับคนอื่น ๆ
ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดคุยกับคนร่วมโต๊ะเสมอไป
แต่อย่างไรก็ตามหากคนที่นั่งร่วมโต๊ะนั้นเปิดบทสนทนาขึ้นมา
ก็เป็นโอกาสที่ดีของเราที่จะได้พูดคุยและฝึกฝนภาษาไปพร้อม ๆ กัน
การบริการภายในร้านอาหาร
ร้านอาหารในเยอรมนีโดยทั่วไปจะไม่มีบริการน้ำฟรี
หากเราสั่ง Wasser
ทางร้านจะเสิร์ฟน้ำแร่ให้กับเรา
เครื่องดื่มโดยทั่วไปที่เป็นที่นิยมของชาวเยอรมันคือเบียร์ ซึ่งจะเสิร์ฟตามปริมาตร
อาทิเช่น 0.2, 0.3 หรือ 0.5 ลิตร
สำหรับอาหารเรียกน้ำย่อย
(Appetizer)
โดยทั่วไปจะเป็นบริการฟรีของทางร้านอาหาร แต่ถ้าหากเราอยากทานขนมปังในลักษณะเป็นตะกร้า
เราจำเป็นจะต้องสั่งและจ่ายเงินในส่วนนี้
มารยาท
หลักโดยทั่วไปเราจะต้องถือมีดในมือขวา
และถือส้อมด้วยเมือซ้าย และจะไม่มีการเปลี่ยนมือในระหว่างการเปลี่ยนจานอาหาร เมื่อเรารับประทานอาหารเสร็จแล้วเราจะต้องวางส้อมและมีดไว้คู่กันบนจานทางด้านขวาของเรา
หรือระยะประมาณเลข 4 ในนาฬิกา
เพื่อเป็นสัญญาณให้กับบริกรในการเก็บจานอาหาร
ในทางตรงกันข้ามการวางส้อมและมีดไว้แยกกันในจานอาหารจะถือว่าเรายังทานอาหารจานนี้อยู่
อย่างไรก็ดีมารยาทเหล่านี้ไม่ได้ใช้เพียงแค่ในร้านอาหารเท่านั้น
ยังรวมถึงการทานอาหารในบ้านอีกด้วย สำหรับการดื่มเครื่องดื่ม
หากต้องการเฉลิมฉลอง หรือชนแก้ว จะต้องพูดคำว่า “Prost!” (Cheer!) หรือ คำว่า “Zum Who!” (To your health) ในเยอรมนีจะอนุญาติให้เด็กอายุมากกว่า
16 ปีสามารถดื่มเบียร์หรือไวน์ได้ หากเกิน 18 ปีจะสามารถดื่มจำพวกวิสกี้ หรือแอลกฮอล์ประเภทอื่น ๆ ได้
การจ่ายเงิน
ในร้านอาหารส่วนใหญ่
การจ่ายทิปนั้นส่วนใหญ่จะให้อยู่ที่ 5-10 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายในบิล อาทิเช่น บิลบอก
2.80 ยูโร เราก็จะให้ 3 ยูโร
หากบิลเป็น 22.40 ยูโร เราสามารถให้เป็น 25 หรือ 26 ยูโร ขึ้นกับความพอใจในการบริการของเราควรระวังไว้ข้อหนึ่งคือร้านอาหารส่วนใหญ่ในเยอรมนีจะไม่รับบัตรเครดิต
ดังนั้นควรพกเงินสดให้เพียงพอก่อนเข้าร้านอาหารนะคะ!!!
มื้ออาหารของชาวเยอรมัน
มื้อเช้า
ชาวเยอรมันชอบทางจำพวกขนมปัง, โทสต์ และขนมปังโรล
ในช่วงเช้า โดยจะรับประทานกับแยม, น้ำผึ้ง, ไข่ ทานคู่กับกาแฟหรือชา สำหรับเด็ก ๆ
จะดื่มนมหรือโกโก้เป็นหลัก
มื้อกลางวันและมื้อเย็น
โดยตามธรรมเนียม
มื้อกลางวันถือว่าเป็นอาหารมื้อหลักของในแต่ละวัน โดยจะรับประทานในเวลา
12.00 น. ส่วนมื้อเย็นจะเป็นอาหารที่มื้อเล็กกว่า
โดยอาจจะเป็นอาหารจำพวกแซนด์วิชมากกว่า แต่ในปัจจุบันชาวเยอรมันได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินโดยจะทางอาหารเย็นเป็นมื้อใหญ่กว่าเนื่องจากเป็นเวลาที่รีแล็กซ์มากกว่า
เครื่องเคียงประจำมื้ออาหาร
ก๋วยเตี๋ยวเป็นของเคียงที่สำคัญของชาวเยอรมัน
โดยเฉพาะ Spätzle
ซึ่งมีไข่แดงเป็นส่วนประกอบหลัง หรือจะเป็นลักษณะของก๋วยเตี๋ยว,
มันฝรั่ง หรือ Dumplings (มันฝรั่งบดต้มกับแป้ง)
ก็พบเห็นตามทั่วไป
เครื่องดื่ม
เบียร์ถือว่าเป็นเครื่องดื่มเก่าแก่ของเยอรมนี
พิลเซ่นเบียร์ (Pills)
เป็นประเภทของเบียร์ที่มีความนิยมมากที่สุดในเยอรมนี
ในขณะที่ทางฝั่งใต้ของบาวาเรียจะชอบดื่มลาเกอร์เบียร์มากกว่า นอกจากนี้ไวน์ยังเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในเยอรมนี
โดยแหล่งที่มาของไวน์นั้นจะอยู่ในแถบทางด้านตอนบนและตอนกลางของแม่น้ำไรน์
โดยประเพณีแล้วชาวเยอรมันจะชอบไวน์ขาวชนิดหวานมากกว่า
ของหวาน
ของหวานที่เป็นที่นิยมนั้นมีหลากหลายอาทเช่น
เค้กและทาร์ตที่ทำจากผลไม้สดในประเทศ (แอ๊ปเปิ้ล, ลูกพลัม, สตรอเบอร์รี่ และเชอร์รี่) นอกจากนี้ยังมีชีสเค้ก, โดนัทเยอรมัน,
เบอร์ลินเนอร์ไอศกรีมและของหวานจำพวกเชอร์เบทยังเป็นที่นิยมอย่างมาก
ไอศกรีมที่เป็นที่นิยมในเยอรมนีมากที่สุดคือ ไอศกรีมสปาเก๊ตตี้ (Spaghetti
Eis)
การซื้อของ
ชาวเยอรมันไม่นิยมการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต
ส่วนใหญ่จะพกเป็นเงินสดหรือเดบิตการ์ดเอาไว้ เนื่องจากในร้านเล็ก
ๆของเยอรมนีจะไม่รับบัตรเครดิต รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ
ส่วนใหญ่ก็จะไม่รับทั้งบัตรเครดิตและบัตรเดบิตอีกด้วย ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการจะไปช้อปปิ้งในเยอรมนีแนะนำว่าพกเงินสดดีที่สุดค่ะชาวเยอรมันส่วนใหญ่มักจะหิ้วถุงผ้ากันมาเองสำหรับการซื้อของ
เนื่องจากหลาย ๆ ร้านขายของชำส่วนใหญ่นั้นจะไม่ให้ถุงกับลูกค้า
เพื่อเป็นการรณรงค์อีกวิธีหนึ่งร้านขายของในเยอรมนีมักจะเปิดในเวลา 9.00 หรือ 10.00 และจะปิดในเวลา 18.00 หรือ 20.00 ซึ่งหากเป็นวันเสาร์ร้านขายของส่วนใหญ่มักจะปิดก่อนเวลา
ในขณะที่หากเป็นเมืองใหญ่ ๆ ร้านค้าจะเปิดถึงเวลา 20.00 น.
ตั้งแต่วันจันทร์ ถึงเสาร์ และในบางที่อาจมีการเปิดถึง 22.00 น.
ร้านค้าบางร้านจะมีการปิดในช่วงเวลากลางวันตั้งแต่
13.00
ถึง 15.00 น. ซึ่งมักจะพบได้ในเมืองเล็ก ๆ
ในขณะที่ร้านทุก ๆ ร้านจะมีการปิดในช่วงวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ
หากต้องการซื้ออะไรในวันเหล่านี้ เราจะสามารถไปซื้อได้ที่ร้านค้าในปั๊มน้ำมันแทน
และร้านขนมปัง,ร้านดอกไม้บางร้านยังมีการเปิดในช่วงวันอาทิตย์อยู่
หากเป็นเมืองใหญ่ ๆ ร้านค้าตามสถานีรถไฟจะเปิดให้บริการในช่วงวันอาทิตย์
และวันหยุดราชการอยู่แล้ว
กีฬา
ชาวเยอรมนีให้ความสำคัญในเรื่องของกีฬามาก
ซึ่งประเทศเยอรมนีเองก็ถือว่าเป็นอันดับต้น ๆ
ของโลกที่มีความเด่นในเรื่องของกีฬาหลากหลายชนิดด้วยกัน
ดังจะเห็นได้จากการแข่งขันโอลิมปิคฤดูร้อน ในปี 2008 และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคในฤดูหนาว
ปี 2010 ประเทศเยอรมนีจะอยู่ใน Top 5 ตลอด
ฟุตบอล
ประเทศเยอรมนีมีการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศที่มีชื่อเสียงในระดับโลก
และคนไทยก็รู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นคือ บุนเดสลีก้า (Bundesliga) และมีทีมชาติที่อยู่ในอันดับต้น
ๆของโลกเสมอ นอกจากนีทีมฟุตบอลหญิงของประเทศเยอรมนียังเป็นทีมที่มีความเเข้มแข็ง
และอยู่ในระดับมาตรฐานต้น ๆ ของโลกอีกด้วย
ฮอกกี้น้ำแข็ง (Ice hockey)
เป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศเยอรมนี และมีการแข่งขันภายในประเทศที่สำคัญคือ
Deutsche Eishockey Liga ซึ่งปัจจุบันทีมชาติของผู้ชายนั้นอยู่ในอันดับที่
9 ของโลก
วันหยุด ปี 2015 สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
1
มกราคม
= วันขึ้นปีใหม่
6
มกราคม
= วันฉลองเทศกาลเสด็จมาของพระเยซูคริสต์; Epiphany Day (วันหยุดของรัฐBaden-Württemberg,Bavaria, Saxony-Anhalt)
3 เมษายน
= วันศุกร์ก่อนวันอีสเตอร์; Good Friday
6 เมษายน
= วันจันทร์หลังวันอีสเตอร์; Easter Monday
1
พฤษภาคม
= วันแรงงาน
10
พฤษภาคม = วันแม่
(วันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม ไม่ใช่วันหยุดราชการ)
14
พฤษภาคม = วันที่
40 หลังวันอีสเตอร์; Ascension Day และกำหนดให้เป็นวันพ่อ
เพื่อเฉลิมฉลอง Ascension Day
25
พฤษภาคม = วันจันทร์ที่
7 หลังวันอีสเตอร์; Pentecost Monday
4 มิถุนายน
= วันสมโภชพระคริสตวรกาย; Corpus Christi Day (วันหยุดของรัฐBaden-Württemberg,Bavaria, Hesse, North
Rhine-Westphalia,Rhineland-Palatinate,Saarland)
15
สิงหาคม
= วันอัสสัมชัญ; Assumption Day (วันหยุดของรัฐSaarland)
3
ตุลาคม
= วันรวมชาติเยอรมัน
31
ตุลาคม
= วันปฏิรูปทางคริสตศาสนา (วันหยุดของรัฐBrandenburg,
Mecklenburg-Vorpommern, Saxony,Saxony-Anhalt,Thuringia)
1
พฤศจิกายน = วันระลึกถึงนักบุญ; All Saints Day (วันหยุดของรัฐBaden-Württemberg,Bavaria,
North Rhine-Westphalia,Rhineland-Palatinate,Saarland)
18 พฤศจิกายน = วันสำนึกบาป
(วันหยุดของรัฐSaxony)
25
ธันวาคม
= วันคริสต์มาส
26
ธันวาคม
= St Stephens Day / Boxing Day
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น